พรหมมา
วิหกไพบูลย์ (2558) http://learntheory58.blogspot.com/2015/06/blog-post.html ได้กล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล
(Information Processing
Theory)ไว้ว่า เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้ คือ การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น จัดสิ่งเร้าในการเรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน สอนให้ฝึกการจำโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย หากต้องการให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใดๆ ได้เป็นเวลานาน สาระนั้นจะต้องได้รับการเข้ารหัส
(encoding) เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว วิธีการเข้ารหัสสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การท่องจำซ้ำๆ การทบทวน หรือการใช้กระบวนการขยายความคิด
อรพรรณ
ประชาโรจน์ http://krupinun2.blogspot.com/p/1-information-processing-theory.html อ้างถึง(ทิศนา แขมมณี.2554:80-85)
เกี่ยวกับทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information
Processing Theory) ไว้ดังนี้
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล
เป็นทฤษฎีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์
โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฎีนี้เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1950 จวบจนปัจจุบัน คลอสเมียร์ ( Klausmeier , 1985 : 52 – 108 )
ได้อธิบายการเรียนรู้ของมนุษย์โดยเปรียบเทียบการทำงานของคอมพิวเตอร์กับการทำงานของสมอง
ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนดังนี้คือ
1. การรับข้อมูล
(input
) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้อมูล
2.
การเข้ารหัส ( encoding
) โดยอาศัยชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ ( software )
3.
การส่งข้อมูลออก ( output
) โดยผ่านทางอุปกรณ์
คลอสเมียร์ ( Klausmeier
, 1985 : 105 )
ได้อธิบายกระบวนการประมวลข้อมูลโดยเริ่มต้นจากการที่
มนุษย์รับสิ่งเร้าเข้ามาทางประสาทสัมผัสทั้ง
5 สิ่งเร้าที่เข้ามาจะได้รับการบันทึกไว้ในความจำระยะสั้น
ซึ่งการบันทึกนี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ประการคือ การรู้จัก ( recognition
) และความใส่ใจ ( attention ) ของบุคคลที่รับสิ่งเร้า
ซึ่งจะดำรงอยู่ในระยะเวลาที่จำกัดมาก
ในการทำงานที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้ชั่วคราว อาจจำเป็นต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ
ในการจำช่วย เช่น การจัดกลุ่มคำ หรือการท่องซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง
ซึ่งจะสามารถช่วยให้จดจำสิ่งนั้นไว้ใช้งานได้ การเก็บข้อมูลไว้ใช้ในภายหลัง
สามารถทำได้โดยข้อมูลนั้นจำเป็นต้องได้รับการประมวลและเปลี่ยนรูปโดยการเข้ารหัส ( encoding
) เพื่อนำไปเก็บไว้ในความจำระยะยาว ( long term
memory ) ซึ่งอาจต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ เข้าช่วย เช่น
การท่องซ้ำหลาย ๆ ครั้ง หรือการทำข้อมูลให้มีความหมายกับตนเอง ความจำระยะยาวนี้มี
2 ชนิด คือ ความจำที่เกี่ยวกับภาษา ( semantic ) และความจำที่เกี่ยวกับเหตุการณ์
( episodic ) นอกจากนั้นยังอาจแบ่งได้เป็น 2
ประเภท คือ ความจำประเภทกลไกที่เคลื่อนไหว ( motoric memory ) หรือความจำประเภทอารมณ์ ความรู้สึก ( affective memory )
กระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลจะได้รับการบริหารควบคุมอีกชั้นหนึ่ง
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้ว ก็คือโปรแกรมสั่งงานหรือ “
software ” นั่นเอง
ดังนั้น ความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นหรือการรู้คิด ( metacognitive
knowledge ) จึงมักประกอบไปด้วยความรู้เกี่ยวกับบุคคล ( person
) งาน ( task ) และกลวิธี ( strategy
)
ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แพริสและคณะ ( Paris et al., 1983 : 293 – 316 )
ได้จำแนกความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นออกเป็น 3 ประเภท เช่นเดียวกัน ได้แก่
1. ความรู้ในเชิงปัจจัย ( declarative knowledge )
2. ความรูเชิงกระบวนการ ( procedural knowledge )
3. ความรู้เชิงเงื่อนไข ( conditional knowledge )
ข. การประยุกต์ใช้ทฤษฎีในการเรียนการสอน
ทฤษฎีที่กล่าวไว้ข้างต้น
เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนหลายประการดังนี้
1. เนื่องจากการรู้จัก ( recognition ) การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่แล้ว
จะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น
ซึ่งผู้สอนสามารถเชื่อมโยงไปถึงสิ่งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นได้
2. เนื่องจากความใส่ใจ ( attention ) ในการจัดการเรียนการสอน
จึงควรจัดสิ่งเร้าในการ
เรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน
เพราะจะช่วยให้ผู้เรียนใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น
และนำไปเก็บบันทึกไว้ในความจำระยะสั้นต่อไป
3. เนื่องจากข้อมูลที่ผ่านการรับรู้แล้ว จะถูกนำไปเก็บไว้ในความจำระยะสั้น
หากต้องการที่จะ
จำสิ่งนั้นนานกว่านี้
ก็จำเป็นต้องใช้วิธีการต่าง ๆ ช่วย
4. หากต้องการจะให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใด ๆ ได้เป็นเวลานาน
สาระนั้นจะต้องได้รับการ
เข้ารหัส
( encoding
) เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว
5.
ข้อมูลที่นำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำระยะสั้นหรือระยะยาวแล้ว
สามารถเรียกออกมาใช้
งานได้โดยผ่าน “
effector ” ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นพฤติกรรมทางวาจาหรือการกระทำ ( vocal
and motor response generator )
ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ (2553) https://www.l3nr.org/posts/386486 ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล(Information
Processing Theory) เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์
โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์
สรุป
ทฤษฎีทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล(Information
Processing Theory) เป็นทฤษฎีที่สนใจเกี่ยวกับการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์
สนใจกระบวนการทำงานของสมอง ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ การประยุกต์ทฤษฎีนี้ในการจัดการเรียนการสอนทำได้ดังนี้
1. เนื่องจากการรู้จัก ( recognition ) การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่แล้ว
จะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น
ซึ่งผู้สอนสามารถเชื่อมโยงไปถึงสิ่งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นได้
2. เนื่องจากความใส่ใจ ( attention ) ในการจัดการเรียนการสอน
จึงควรจัดสิ่งเร้าในการ
เรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน
เพราะจะช่วยให้ผู้เรียนใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น
และนำไปเก็บบันทึกไว้ในความจำระยะสั้นต่อไป
3. เนื่องจากข้อมูลที่ผ่านการรับรู้แล้ว จะถูกนำไปเก็บไว้ในความจำระยะสั้น
หากต้องการที่จะ
จำสิ่งนั้นนานกว่านี้
ก็จำเป็นต้องใช้วิธีการต่าง ๆ ช่วย
4. หากต้องการจะให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใด ๆ ได้เป็นเวลานาน
สาระนั้นจะต้องได้รับการ
เข้ารหัส
( encoding
) เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว
5.
ข้อมูลที่นำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำระยะสั้นหรือระยะยาวแล้ว สามารถเรียกออกมาใช้
งานได้โดยผ่าน “
effector ” ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นพฤติกรรมทางวาจาหรือการกระทำ ( vocal
and motor response generator )
ที่มา
พรหมมา
วิหกไพบูลย์. (2558).[online] http://learntheory58.blogspot.com/2015/06/blog-post.html.
ทฤษฎีการเรียนรู้.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.
อรพรรณ ประชาโรจน์ .[online]. http://krupinun2.blogspot.com/p/1-information-processing-theory.html. ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.
ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ .(2553).[online] https://www.l3nr.org/posts/386486.ทฤษฎีการเรียนรู้.
สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.
สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น