วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information Processing Theory)

พรหมมา วิหกไพบูลย์ (2558) http://learntheory58.blogspot.com/2015/06/blog-post.html    ได้กล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information Processing Theory)ไว้ว่า  เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์  โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง  ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า  การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์   หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้  คือ  การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น  จัดสิ่งเร้าในการเรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน  สอนให้ฝึกการจำโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย  หากต้องการให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใดๆ  ได้เป็นเวลานาน  สาระนั้นจะต้องได้รับการเข้ารหัส (encoding)  เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว  วิธีการเข้ารหัสสามารถทำได้หลายวิธี  เช่น  การท่องจำซ้ำๆ  การทบทวน  หรือการใช้กระบวนการขยายความคิด

อรพรรณ ประชาโรจน์ http://krupinun2.blogspot.com/p/1-information-processing-theory.html อ้างถึง(ทิศนา แขมมณี.2554:80-85) เกี่ยวกับทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information Processing Theory) ไว้ดังนี้
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล เป็นทฤษฎีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฎีนี้เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 จวบจนปัจจุบัน คลอสเมียร์ ( Klausmeier , 1985 : 52 – 108 ) ได้อธิบายการเรียนรู้ของมนุษย์โดยเปรียบเทียบการทำงานของคอมพิวเตอร์กับการทำงานของสมอง ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนดังนี้คือ
1. การรับข้อมูล (input ) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้อมูล
2. การเข้ารหัส ( encoding ) โดยอาศัยชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ ( software )
3. การส่งข้อมูลออก ( output ) โดยผ่านทางอุปกรณ์
คลอสเมียร์ ( Klausmeier , 1985 : 105 ) ได้อธิบายกระบวนการประมวลข้อมูลโดยเริ่มต้นจากการที่
มนุษย์รับสิ่งเร้าเข้ามาทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 สิ่งเร้าที่เข้ามาจะได้รับการบันทึกไว้ในความจำระยะสั้น ซึ่งการบันทึกนี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ประการคือ การรู้จัก ( recognition ) และความใส่ใจ ( attention ) ของบุคคลที่รับสิ่งเร้า ซึ่งจะดำรงอยู่ในระยะเวลาที่จำกัดมาก ในการทำงานที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้ชั่วคราว อาจจำเป็นต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการจำช่วย เช่น การจัดกลุ่มคำ หรือการท่องซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยให้จดจำสิ่งนั้นไว้ใช้งานได้ การเก็บข้อมูลไว้ใช้ในภายหลัง สามารถทำได้โดยข้อมูลนั้นจำเป็นต้องได้รับการประมวลและเปลี่ยนรูปโดยการเข้ารหัส ( encoding ) เพื่อนำไปเก็บไว้ในความจำระยะยาว ( long term memory ) ซึ่งอาจต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ เข้าช่วย เช่น การท่องซ้ำหลาย ๆ ครั้ง หรือการทำข้อมูลให้มีความหมายกับตนเอง ความจำระยะยาวนี้มี 2 ชนิด คือ ความจำที่เกี่ยวกับภาษา ( semantic ) และความจำที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ ( episodic ) นอกจากนั้นยังอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ความจำประเภทกลไกที่เคลื่อนไหว ( motoric memory ) หรือความจำประเภทอารมณ์ ความรู้สึก ( affective memory )
                กระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลจะได้รับการบริหารควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้ว ก็คือโปรแกรมสั่งงานหรือ “ software ” นั่นเอง
                ดังนั้น ความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นหรือการรู้คิด  ( metacognitive knowledge ) จึงมักประกอบไปด้วยความรู้เกี่ยวกับบุคคล ( person ) งาน ( task ) และกลวิธี ( strategy )
                ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แพริสและคณะ ( Paris et al., 1983 : 293 – 316 ) ได้จำแนกความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นออกเป็น 3 ประเภท เช่นเดียวกัน ได้แก่
1.  ความรู้ในเชิงปัจจัย ( declarative knowledge )
2.  ความรูเชิงกระบวนการ ( procedural knowledge )
3.  ความรู้เชิงเงื่อนไข ( conditional knowledge )
ข.      การประยุกต์ใช้ทฤษฎีในการเรียนการสอน
ทฤษฎีที่กล่าวไว้ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนหลายประการดังนี้
1.  เนื่องจากการรู้จัก ( recognition ) การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่แล้ว จะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น ซึ่งผู้สอนสามารถเชื่อมโยงไปถึงสิ่งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นได้
2.  เนื่องจากความใส่ใจ ( attention ) ในการจัดการเรียนการสอน จึงควรจัดสิ่งเร้าในการ
เรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน เพราะจะช่วยให้ผู้เรียนใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น และนำไปเก็บบันทึกไว้ในความจำระยะสั้นต่อไป
3.  เนื่องจากข้อมูลที่ผ่านการรับรู้แล้ว จะถูกนำไปเก็บไว้ในความจำระยะสั้น หากต้องการที่จะ
จำสิ่งนั้นนานกว่านี้ ก็จำเป็นต้องใช้วิธีการต่าง ๆ ช่วย
4.  หากต้องการจะให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใด ๆ ได้เป็นเวลานาน สาระนั้นจะต้องได้รับการ
เข้ารหัส ( encoding ) เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว
5.  ข้อมูลที่นำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำระยะสั้นหรือระยะยาวแล้ว สามารถเรียกออกมาใช้
งานได้โดยผ่าน “ effector ” ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นพฤติกรรมทางวาจาหรือการกระทำ ( vocal and motor response generator )

ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ (2553) https://www.l3nr.org/posts/386486  ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล(Information Processing Theory)  เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์  โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง  ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า  การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์

สรุป
          ทฤษฎีทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล(Information Processing Theory) เป็นทฤษฎีที่สนใจเกี่ยวกับการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ สนใจกระบวนการทำงานของสมอง ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า  การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์  การประยุกต์ทฤษฎีนี้ในการจัดการเรียนการสอนทำได้ดังนี้ 
1.  เนื่องจากการรู้จัก ( recognition ) การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่แล้ว จะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น ซึ่งผู้สอนสามารถเชื่อมโยงไปถึงสิ่งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นได้
2.  เนื่องจากความใส่ใจ ( attention ) ในการจัดการเรียนการสอน จึงควรจัดสิ่งเร้าในการ
เรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน เพราะจะช่วยให้ผู้เรียนใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น และนำไปเก็บบันทึกไว้ในความจำระยะสั้นต่อไป
3.  เนื่องจากข้อมูลที่ผ่านการรับรู้แล้ว จะถูกนำไปเก็บไว้ในความจำระยะสั้น หากต้องการที่จะ
จำสิ่งนั้นนานกว่านี้ ก็จำเป็นต้องใช้วิธีการต่าง ๆ ช่วย
4.  หากต้องการจะให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใด ๆ ได้เป็นเวลานาน สาระนั้นจะต้องได้รับการ
เข้ารหัส ( encoding ) เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว
5.  ข้อมูลที่นำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำระยะสั้นหรือระยะยาวแล้ว สามารถเรียกออกมาใช้
งานได้โดยผ่าน “ effector ” ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นพฤติกรรมทางวาจาหรือการกระทำ ( vocal and motor response generator )

ที่มา
พรหมมา วิหกไพบูลย์. (2558).[online] http://learntheory58.blogspot.com/2015/06/blog-post.html. 
         ทฤษฎีการเรียนรู้.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.  
อรพรรณ ประชาโรจน์ .[online]http://krupinun2.blogspot.com/p/1-information-processing-theory.html.                 ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.  
ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ .(2553).[online] https://www.l3nr.org/posts/386486.ทฤษฎีการเรียนรู้. 
         สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2558.    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น